การปฏิบัติหน้าที่ป้องกันปราบปราม ต้องยึดหลักการ ดังนี้
- การบังคับใช้กฎหมาย
ต้องเป็นไปด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม เสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งเพศ วัย เชื้อชาติ ศาสนา และสถานภาพทางสังคม
- เน้นการป้องกัน
- ให้ความสำคัญกับงานป้องกันมากเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย เพราะเมื่อเกิดเหตุแล้ว จะมีภาระอีกหลายอย่างตามมา ตั้งแต่การสืบสวน สอบสวน การเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม รวมถึงการคุมขัง จะต้องเสียค่าใช้จ่าย งบประมาณจำนวนมาก
- ดังนั้นตำรวจจะต้องป้องกันไม่ให้อาชญากรรมเกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นน้อยที่สุด ซึ่งนอกจากจะต้องปรับปรุงระบบงานสายตรวจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว ตำรวจทุกพื้นที่ ทุกตำแหน่ง ทุกหน้าที่ ต้องให้ความสำคัญ และร่วมแรง ร่วมใจกันทำหน้าที่ป้องกันอาชญากรรม
- ทุกสถานีตำรวจ จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันให้มากขึ้น โดย
- ทำงานอย่างบูรณาการโดยใช้กำลังจากทุกฝ่ายภายใน สน./สภ.
- แสวงหาความร่วมมือจากภาคเอกชน –หน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ มูลนิธิ อาสาสมัครต่างๆ และประชาชนทั่วไปในพื้นที่
- ใช้ข้อมูลที่ทันสมัยจากทุกช่องทาง ตามที่เกิดขึ้นจริง
- วิเคราะห์ข้อมูล (สถานภาพ) อาชญากรรม อย่างต่อเนื่อง เป็นระบบ
- นำมาใช้ในการวางแผน ปรับยุทธวิธีการทำงาน
- นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้
- ดำเนินมาตรการการป้องกันอาชญากรรมเชิงรุก อย่างจริงจัง สม่ำเสมอ
- ตำรวจกับประชาชน เป็นคนๆเดียวกัน ต้องเข้าหาประชาชน
- ตำรวจกับประชาชนเปรียบเหมือนคนๆ เดียวกัน ต้องทำงานโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ตำรวจต้องเป็นฝ่ายเข้าหาประชาชน เข้าหาหน่วยราชการ เพื่อรับฟังความคิดเห็น ความต้องการ ตรวจสอบ (X-Ray) ปัญหาความเดือดร้อน อย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้องและถูกใจ ได้ผลอย่างยั่งยืน
- การแสวงหาความร่วมมือ เพื่อให้ประชาชนและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ให้ความร่วมมือสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจต่างๆ จะต้องเริ่มจาก การปฏิบัติหน้าที่ – ภารกิจ สำเร็จ ครบถ้วน เพื่อเป็นการสร้างศรัทธา ความเชื่อมั่น ให้กับประชาชนและสังคมยอมรับก่อน จึงจะเป็นที่มาของความร่วมมือ ร่วมใจของประชาชน และหน่วยราชการที่เราต้องการได้
- การใช้กำลังและอาวุธ
ตำรวจจะทำได้ก็ต่อเมื่อมีความจำเป็นอย่างแท้จริง และไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่นหรือตนเองเท่านั้น ต้องสมเหตุสมผล ตำรวจจึงจำเป็นต้อง ฝึกอบรม เรียนรู้ จนสามารถใช้กำลังและอาวุธได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พึงระมัดระวังอย่างยิ่ง หากผิดพลาดจะเสียหาย แก้ไขยาก เพราะเทคโนโลยีปัจจุบัน ก้าวหน้า รวดเร็วมาก
- ภาพพจน์ และชื่อเสียงของตำรวจ
- ต้องคำนึงถึงภาพพจน์ และชื่อเสียงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะเป็นทั้งผู้บังคับใช้กฎหมายและให้บริการ ประกอบกับตำรวจนั้นมีต้นทุนทางสังคมต่ำ กระทำการใดๆ มักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ต้องช่วยกัน สอดส่อง ดูแล ช่วยเหลือ/แก้ไข ปัญหา ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งในงานราชการ และส่วนตัว อย่าปล่อยให้ตำรวจเพียงไม่กี่คนทำให้ภาพพจน์ของตำรวจส่วนใหญ่เสียหาย
- ต้องไม่เป็นหนึ่งในส่วนน้อยที่ทำให้องค์กรตำรวจเสียหาย ทั้งเรื่องใหญ่ หรือเรื่องเล็กน้อย
- ให้ห่างไกล ไม่ไปคบหากับผู้มีอิทธิพล ผู้มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด แก๊งเงินกู้นอกระบบ อบายมุขทุกประเภท ต้องถอยออกมาอย่างเด็ดขาด และช่วยจัดการให้หมดสิ้นไป
- ไม่ทำผิด ฝ่าฝืนกฎหมายเสียเอง เช่น ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง ขับรถย้อนศร โดยไม่จำเป็น ขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยไม่สวมหมวกกันน็อก เป็นต้น
- อาชญากรรมที่เกิดกับเด็ก สตรี คนชรา และชาวต่างชาติ ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
เพราะเป็นที่สนใจของประชาชน และสื่อมวลชน ตลอดจนส่งผลต่อความรู้สึก ความหวาดระแวง ภัย-อันตราย จากอาชญากรรม